UFASPORT GAME

ข่าวฟุตบอลยุโร 2020 (2021) ล่าสุด อัพเดทข่าวสารวงการกีฬา ฟุตบอลวันนี้ ผลฟุตบอลยุโรปทั่วโลก

โรงงานผลิตดาวรุ่งที่มีชื่อว่า “บุนเดสลีกา”

บุนเดสลีกา ลีกฟุตบอลของประเทศเยอรมัน ในอดีตนั้นมักมีผู้เล่นเยาวชนที่เติบโตจากลีกแห่งนี้และประสบความสำเร็จมากมายจนก้าวไปสู่ระดับโลก อาทิเช่น ลูคัส โพดอลสกี้,ฟิลิฟ ลาห์ม และมาริโอ เกิทเซ่ ผู้ที่ยิงประตูชัยให้กับทีมชาติเยอรมันจนสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2014 (สมัยที่ 4) และเคยคว้ารางวัลโกลเด้น บอย เมื่อปี 2011 อีกด้วย

“รางวัลโกลเด้น บอย” คือรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งยุโรปที่จัดตั้งขึ้นมาโดยการรวมกันของสื่อชื่อดังชั้นนำของทวีปยุโรปเพื่อเป็นการส่งเสริมเยาวชนลูกหนังที่มีผลงานอันยอดเยี่ยมที่จะเตรียมตัวก้าวขึ้นมาเป็นเพชรเม็ดงามแห่งวงการลูกหนัง ดาวดังแห่งวงการลูกหนังหลายรายล้วนเคยผ่านคว้ารางวัลนี้มาแล้วมากมาย แม้กระทั่งแข้งระดับโลกอย่างลิโอเนล เมสซี่ ในปี 2005 , คิลิยัน เอ็มบัปเป้ในปี 2017 และรางวัลล่าสุดในปี 2020 นี้เป็นของดาวรุ่งพุ่งแรงอนาคตไกลจากค่ายเสือเหลืองอย่างโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ด้วยฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงและโดดเด่น เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาสามารถยิงในลีกมากที่สุดเป็นอันดับที่ 3 และมีส่วนร่วมในการคว้าแชมป์ เดเอฟ เบ โพคาล และได้โควตาไปเล่นในรายการยูฟ่า แชมป์เปี้ยน ลีกอีกด้วย และนี่คือดาวรุ่งที่มีอายุเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้น ซึ่งในตอนนี้เขาก็ยังคงเกินหน้าถล่มประตูแบบต่อเนื่อง ปัจจุบันยังลงเล่นให้กับยอดทีมแห่งเวสต์ฟาเล่นไปแล้วถึง 67 นัด ทำประตูไปแล้วอีก 68 ประตู และมีส่วนร่วมกับการทำประตูถึง 19 ครั้งทุกรายการ และแน่นอนว่าเขาไม่มีทีท่าว่าจะหยุดไว้เพียงแค่นี้จริงๆ

ในฤดูกาลนี้ 2020 /21 มีดาวรุ่งหลายคนโดดเด่นขึ้นมาจากระบบเยาวชนและสามารถทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะ 4 ดาวเด่นซึ่งเป็นตัวแทนจาก บุนเดสลีกา ลีกฟุตบอลเยอรมัน ที่มีชื่อลุ้นในรางวัล“รางวัลโกลเด้น บอย” ได้แก่ จู๊ด เบลลิ่งแฮม และโจวานนี่ เรย์น่า จาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และโฟลเรียน เวียร์ทซ์ จาก ไปเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ซึ่งเรามาดูทีเด็ดของเด็กเหล่านี้ว่าพวกเขานั้นยอดเยี่ยมขนาดไหนถึงมีลุ้นเป็นยอดดาวรุ่งที่สุดแห่งปีของยุโรป

1. จู๊ด เบลลิ่งแฮม (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)

กองกลางดาวรุ่งจากเกาะอังกฤษที่ย้ายมาจาก เบอร์มิงแฮม สู่บุนเดสลีกาในสังกัดของ ดอร์ทมุนด์ ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมและโดดเด่นทั้งลีลาการลากเลื้อยเร็วดั่งลมกรดและการจบสกอร์ที่เฉียบคมในวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น เรียกได้ว่ามีฝีเท้าเกินวัย นอกจากนี้เขายังมีส่วนร่วมในการพาทัพเสือเหลือง คว้าแชมป์เดเอฟเบ โพคาลเมื่อฤดูกาลที่แล้วอีกด้วย และด้วยฝีเท้าอันโดดเด่นนี้ทำให้ไปเข้าตา แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษเข้าอย่างจังเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่เลยทันที และเป็นหนึ่งในคีย์แมนปิดทองหลังพระคนสำคัญที่ทำให้ทัพสิงโตคำรามไปไกลถึงการเป็นรองแชมป์ยูโร 2020 เมื่อช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

2. โจวานนี่ เรย์น่า (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)

โจวานนี่ เรย์น่า เขาคนนี้มีสายเลือดฟุตบอลมาจากดีเอ็นเอของผู้ให้กำเนิดอย่างคุณพ่อของเขา เคลาดิโอ เรย์น่า ก็เป็นนักฟุตบอลเช่นกัน โดยเคยค้าแข้งในศึกบุนเดนลีกามาแล้วด้วย ได้แก่ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และ โวล์สบวร์ก โดยเจ้าหนูจิโอ เริ่มต้นในการค้าแข้งในระบบเยาวชนของนิวยอร์ค เร้ด บูล ก่อนที่จะฉายแสงจนไปเตะตาของแมวมองอคาเดมี่อย่างโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โดยมาร่วมทีมในฤดูกาล 2019/20 ก่อนที่จะไม่ทำให้ผิดหวังสามารถสร้างผลงานเด่นๆจนกลายมาเป็นตัวหลักของสโมสร และทีเด็ดของเขาในครั้งนี้คือการมีส่วนร่วมในการทำประตู(แอสซิสต์) และเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญในการพา โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ในซีซั่นที่ผ่านมาอีกด้วย ฟอร์มการเล่นที่เป็นประจักษ์ทำให้เขานั้นถูกเรียกติดทีมชาติสหรัฐอเมริกาทั้งชุดเยาวชนและชุดใหญ่โดยเป็นขุมกำลังหลักในการคว้าแชมป์ คอนคาเคฟ เนชั่น ลีก 2019/20 เป็นอีกหนึ่งดาวเด่นที่หน้าจับตามองจริงๆ

3. โฟลเรียน เวียร์ทซ์  (ไปเออร์ เลเวอร์คูเซ่น)

รายสุดท้าย โฟลเรียน เวียร์ทซ์  กองกลางตัวรุกจากทัพ “ห้างขายยา” เริ่มต้นเข้าสู่ชีวิตลูกหนังเป็นครั้งแรกที่อคาเดมี่ของโคโลญจน์ เป็นเวลา 10 ปี ก่อนจะย้ายมาสู่เลเวอร์คูเซ่นในฤดูกาล 2019/20 ซึ่งในช่วงแรกนั้นเขาถูกมองว่าเป็นแกนหลักให้กับทีมชุดเยาวชนแต่ปรากฏว่าผิดคาดเข้าได้ลงเล่นชุดใหญ่และประเดิมสนามด้วยการเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรด้วยวัยเพียง 17 ปีกับอีก 15 วัน เป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดในบุนเดสลีกาที่ทำประตูได้ในวัย 17 ปีกับอีก 34 วัน ความโดดเด่นของเขาคือเรื่องของความเร็วในการเติมเกมที่ถูกจังหวะ ถูกเวลา และการวางบอลที่สุดแสนจะแม่นยำ จนกลายเป็นตัวหลักของสโมสรที่ขาดเขาไมได้ ทำให้เขานั้นถูกเรียกติดทีมชาติเยอรมันชุดใหญ่และชุดต่ำกว่า 21 ปี ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาเขาคือหนึ่งในขุนพลที่พา อินทรีเหล็ก ชุดอายุไม่เกิน 21 คว้าแชมป์ยุโรปมาครองอีกด้วย

จะเห็นได้ว่าแต่ละยุคสมัยของศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน มักขับเคลื่อนด้วยดาวรุ่งฝีเท้าอันยอดเยี่ยมอยู่เสมอและการแข่งขันกันของนักเตะพลังหนุ่มนอกจากจะเป็นเรื่องของศักยภาพของตนเองและเพื่อนร่วมทีมแล้ว การทำประตูก็ถือว่าสำคัญในการเปลี่ยนผลการแข่งขันลีกสูงสุดแห่งเมืองเบียร์ ซึ่งฟุตบอลเยอรมันเป็นมากกว่าเรื่องราวในสนามที่มีเรื่องราวให้เราสนใจมากมายหากต้องการรับความบันเทิงอย่างครบครัน “บุนเดสลีกา” คืออีกหนึ่งลีกระดับโลกที่ไม่ควรพลาดเลยจริงๆ