
เวิร์ตชาฟต์ส วอช สื่อของประเทศเยอรมนี อ้างว่าพวกเขาได้ข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบการแข่งขันอันใหม่ที่ฝ่ายจัดของ ซูเปอร์ลีก กำลังเล็งพิจารณากันอยู่ โดยในตอนนี้ เหลือเพียง มาดริด, บาร์เซโลนา และ ยูเวนตุส ที่ยังไม่ล้มเลิกความคิดที่จะจัดรายการดังกล่าว
เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา และ ยูเวนตุส 3 สโมสรที่ยังคิดจัดศึกซูเปอร์ลีก ได้ทำการร่างแผนงานแบบใหม่สำหรับการจัดรายการดังกล่าว โดยจะมีรวมแล้วถึง 40 ทีมที่ได้เข้าร่วมรายการนี้ และจะมีการแบ่งลีกเป็น 2 ระดับ ตามการเปิดเผยของ เวิร์ตชาฟต์ส วอช สื่อของประเทศเยอรมนี
เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาหลายสโมสรฟุตบอลยักษ์ใหญ่ต่างจุดประเด็นร้อนด้วยการประกาศว่าพวกเขามีความคิดที่จะไม่ลงแข่งรายการระดับทวีปที่ขึ้นตรงต่อสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) อย่างเช่น ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก และยูฟ่า ยูโรปา ลีก อีกต่อไป และจะตั้งรายการใหม่ที่ชื่อ ยูโรเปียน ซูเปอร์ ลีก แทน ซึ่งจะมีระบบที่จะให้เหล่าสมาชิกผู้ก่อนตั้งได้สิทธิ์ลงเล่นรายการดังกล่าวแบบง่ายๆ ด้วย ขณะที่โควตาสำหรับทีมที่ไม่ได้เป็นผู้ร่วมก่อตั้งจะมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ทั้งนี้ ทีมเหล่านั้นให้เหตุผลถึงสาเหตุที่ต้องแยกตัวออกมาจัดรายการของตัวเองว่า ทุกวันนี้ ยูฟ่า บริหารรูปแบบการแข่งขันได้ไม่ดีเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม ไอเดียดังกล่าวก็ได้โดนคัดค้านอย่างหนักจากเหล่าแฟนบอลหลายฝ่ายจนสุดท้ายมีการล้มเลิกแผนที่จะจัดซูเปอร์ ลีก ขณะที่อีกหลายทีมก็ขอถอนตัวจากโปรเจ็กต์นี้เมื่อวันที่ 20-21 เมษายน ค.ศ. 2021 ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น อาร์เซนอล, เชลซี, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ทอตนัมฮอตสเปอร์ จนทำให้ตอนนี้เหลือแค่ มาดริด, บาร์เซโลนา และยูเวนตุส เท่านั้นที่ยังคิดจะจัดรายการดังกล่าวอยู่
กระทั่งล่าสุด เวิร์ตชาฟต์ส วอช อ้างว่าพวกเขานั้นได้รับเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับการทีฝ่ายจัดการแข่งขัน ซูเปอร์ ลีก กำลังทำการพิจารณารูปแบบทัวร์นาเมนท์กันใหม่ โดยหนึ่งในนั้นคือ การแบ่งลีกเป็นระดับ 1 กับระดับ 2 ซึ่งจะมีทีมที่ลงแข่งในลีกระดับละ 20 ทีม แล้วจากนั้นก็จะมีการแข่งขันรอบน็อกเอาต์กันต่อ นอกจากนี้ มันก็จะไม่มีการล็อกให้กับ “สมาชิกผู้ก่อตั้งได้ลงสิทธิ์ลงเล่นแบบถาวร” อีกต่อไป โดยจะเปิดให้ทุกทีมทั่วทวีปยุโรปได้สิทธิ์เข้าแข่งรายการนี้ได้ ส่วนสิทธิ์การได้เข้าร่วมนั้นจะวัดจากผลงานที่แต่ละทีมทำได้กับการเล่นเกมลีกภายในประเทศ (ตัวอย่างเช่น การที่ 4 อันดับแรกของ พรีเมียร์ลีก ได้สิทธิ์ลงเล่น ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เป็นต้น) โดยจะมีการจัดแจงโควตาว่าแต่ละทีมควรจะได้สิทธิ์ลงเล่นในลีกระดับไหนอย่างเป็นธรรม ขณะเดียวกัน ฝ่ายจัดการแข่งขันก็จะหาทางช่วยทำให้แฟนๆ ของแต่ละทีมสามารถเดินทางตามไปเชียร์ทีมรักในเกมเยือนได้แบบไม่ยากเย็น ส่วนในนัดชิงชนะเลิศจะมีการพยายามจำกัดค่าตั๋วจำนวนครึ่งหนึ่งจากที่นั่งทั้งหมดให้อยู่ในระดับที่ไม่แพงมากจนเกินไป

มาถึงตรงนี้ หลายๆ คนอาจจะยังไม่ทราบว่าจริงๆ แล้ว ซูเปอร์ลีก นั้นคืออะไร ทำไมเหล่าสมาพันธ์จากยูฟ่าและสมาคมอื่นๆ ต้องทำการต่อต้านกันขนาดนี้ เรามาทำความรู้จักกับมันกันก่อนดีกว่า
ซูเปอร์ ลีก คืออะไร
เป็นความตั้งใจที่จะจัดการแข่งขันขึ้นมาใหม่เพื่อท้าชนกับเหล่าระบบการจัดการของยูฟ่า ที่พยายามจะยกเครื่อง ฟุตบอล แชมเปียนส์ ลีก รูปแบบใหม่ขึ้นมา โดยเพิ่มทีมเป็น 36 สโมสร จากเดิมที่แบ่งเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม แต่ละทีมภายในกลุ่มเดียวกันแข่งขันแบบพบกันหมดทั้ง 6 เกม เปลี่ยนเป็นการแข่งขันรูปแบบใหม่ ที่พวกเขากำลังพยายามจะเสนอรูปแบบต่างๆ อย่างที่ได้อ่านกันมาแล้วข้างต้น ซึ่งมันมีกฎเกณฑ์ของการแข่งขันที่ได้กำหนดไว้แล้ว ดังนี้
- ซูเปอร์ ลีก จะเริ่มเตะกันในเดือนสิงหาคม โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 10 ทีม การแข่งขันเตะกันแบบเหย้า – เยือน ไม่ต่างจากโปรแกรมอื่นๆ ซึ่ง 4 อันดับแรกของแต่ละกลุ่มจะเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศเพื่อห่ำหั่นกันต่อไปจนถึงผู้ที่เป็นแชมป์
- โปรแกรมจะจำกัดไว้เป็นช่วงกลางสัปดาห์เท่านั้นเพื่อที่ว่าสโมสรต่างๆ จะยังคงเต็มที่กับลีกของตัวเองได้แบบเดิม และอาจหมายถึงการเข้าร่วมแข่งขันรายการ แชมเปียนส์ ลีก และยูโร ปา ลีกด้วย ซึ่งหากลองคิดดูแล้วมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
- สโมสรมีสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขัน 4 นัดลงบนแพตทฟอร์มของตัวเองได้อย่างเสรี
- รายได้จากทีวีและสปอนเซอร์ 32.5% จะเข้าสโมสรที่ก่อตั้งทั้งหมดอย่างเท่าเทียม และอีก 32.5% ระหว่างสโมสรใน ซูเปอร์ ลีก ทั้งหมด (ซึ่งหมายความว่าสโมสรที่เป็นผู้ก่อตั้งซูเปอร์ ลีกจะได้รับเงินถึง 2 ต่อเลยทีเดียว) ส่วนที่เหลืออีก 15% จะแบ่งให้ตามความนิยมที่วัดจากเม็ดเงินโฆษณาที่เข้ามา
- เงินเดือนนักเตะ และเงินในการซื้อ- ขายผู้เล่นจะต้องไม่เกิน 55% ของรายได้รวมของแต่ละทีมเพื่อป้องกันความได้เปรียบเสียเปรียบทางทุนทรัพย์

ซึ่งกระแสตอบรับจากผู้คนส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลไม่ค่อยเห็นด้วยในความคิดที่จะก่อตั้งลีกนี้ขึ้นมา โดยเฉพาะกับ แกรี เนวิลล์ ที่ดูจะไม่เห็นด้วยเอามากๆ พร้อมประณามผู้คิดจัดตั้งลีกดังกล่าวว่า “เป็นเรื่องที่ไร้สาระสิ้นดี มันไม่ควรให้นักธุรกิจที่ไม่มีความรู้เรื่องฟุตบอลมาฉกฉวยเอากีฬาฟุตบอลไปทำประโยชน์ส่วนตนและจะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ”
ในขณะที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลชื่อดัง ก็มีความเชื่อว่าการอนุญาตให้มีทัวร์นาเมนท์นี้ขึ้นจะเป็นการทำลายประเพณีอันยาวนานของฟุตบอลยุโรปลงไป รวมไปถึงความหวังของทีมเล็กๆ จากลีกเล็กๆ ในการได้เผชิญหน้ากับยอดทีมในยุโรปก็ต้องสลายหายไปเช่นกัน แฟนบอลของทุกทีมสามารถฝันได้หมดไม่ว่าจะอยู่ในประเทศไหนของยุโรป เพราะทุกทีมอยู่ภายใต้ระบบเดียวกัน แฟนบอลทุกสโมสรสามารถแชร์ความฝันร่วมกัน คือ การได้ไปแข่งฟุตบอลยุโรป ถ้วยที่ทุกสโมสรมีสิทธิ์เข้าร่วม ขอแค่ผ่านเข้ารอบมาได้ แต่แนวคิดของ ซูเปอร์ ลีก ยืนตรงกันข้าม ลีกนี้ปฏิเสธการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมของทุกสโมสรในยุโรปกลายเป็นการแข่งขันที่อ้างตัวว่าเป็นทีมใหญ่ หรืออภิสิทธิ์ชนของวงการฟุตบอลยุโรป ตั้งลีกขึ้นมาเอง เพียงเพื่อให้ทีมเหล่านี้ได้โกยเงินเข้ามาให้ลีกอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

“โคตรช็อก โคตรงง กับ ซูเปอร์ลีก ของทีม ทีมที่ยิ่งใหญ่และดีที่สุดในยุโรป บอร์ดบริหารของอาร์เซนอล เอาทีมของเราไปเข้าร่วมได้ไง” เพียร์ส มอร์แกน ผู้ประกาศข่าวชื่อดังในอังกฤษ อันเป็นแฟนตัวยงของอาร์เซนอล กล่าวคำที่แสดงให้เห็นว่า ซูเปอร์ ลีก นั้นแข่งขันกันที่เงินไม่ใช่เกมในสนาม ก่อนที่ต่อมาทีมอาร์เซนอลได้ขอถอนตัวออกจากซูเปอร์ ลีกเมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมา
แม้ว่าทุกฝ่ายที่มีส่วนได้หรือส่วนเสีย กับการตั้งลีกครั้งนี้ ทั้งอดีตนักฟุตบอล อดีตโค้ช และสื่อมวลชนจำนวนมาก ลงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า ซูเปอร์ ลีก จะทำลายโลกฟุตบอล หากวันหนึ่งวงการฟุตบอลกลายเป็นเกมที่ไร้เสน่ห์ หมดสิ้นซึ่งวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล กลายเป็นเพียงเกมแห่งธุรกิจ ดูดเอาเงินจากผู้ชมเพียงอย่างเดียว และเราคงต้องรอคอยไม่ให้มันเกิดขึ้น
More Stories
“โบนัส สโบเบ็ต” คืออะไร มาทำความรู้จักกัน
บ่อนปรับราคาอีกรอ ซีดาน คุมแมนยู
คอนเฟิร์ม! 10 ชาติยุโรปได้ ตั๋วลุยบอลโลก